สมาคมเซอร์เวย์ประเทศไทย (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ จะเรียกว่า “สมาคม”) ตระหนักถึงความสําคัญของ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สมาคมจึงได้จัดทําประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ จะเรียกว่า “ประกาศ”) เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิตามกฎหมายในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมี

รายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ค่านิยาม “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และ ที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎ ระเบียบ และคําสั่งที่เกี่ยวข้อง
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือ ทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทํานองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกําหนดทั้งนี้ ต่อไปในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หากไม่มีการกล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียก “ข้อมูลส่วนบุคคล” และ “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” ที่เกี่ยวกับผู้ใช้บริการข้างต้นให้รวมกันเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” “บุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาที่ยังไม่ถึงแก่กรรม
“ประมวลผล” หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“สมาคม” หมายถึง สมาคมเซอรืเวย์ประเทศไทย “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นระบุไปถึง

2. ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้มีผลบังคับใช้กับใคร ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้มีผลบังคับใช้กับท่านในฐานะ
     2.1 คู่ค้าของสมาคม โดยคู่ค้าของสมาคมหมายความรวมถึง คู่สัญญา ผู้รับจ้าง ผู้ให้บริการ ซัพพลายเออร์ (Supplier) ที่จัดหาสินค้าและบริการให้กับสมาคม และบุคคลใด ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคลากรของ สมาคมและได้รับการอนุมัติให้มีการทำสัญญาซื้อ จ้าง เช่ากับสมาคมทั้งที่เป็นพันธมิตรปัจจุบัน ผู้ที่อาจเป็นพันธมิตรในอนาคต พันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งรวมถึง วิทยากร ผู้เขียนบทความ และสื่อมวลชน
     2.2 ผู้ประสานงานของคู่ค้าบุคคลธรรมดา ซึ่งรวมถึงเลขานุการและผู้ติดต่อของคู่ค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ จะเรียกว่า “ผู้ประสานงาน”)
     2.3 บุคคลธรรมดาที่ดำเนินการในนามนิติบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น กรรมการ ที่ปรึกษา ผู้บริหาร พนักงาน ตัวแทน ผู้รับมอบอำนาจ เป็นต้น (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ จะเรียกว่า “ผู้แทนคู่ค้า นิติบุคคล”)
โดยต่อไปในประกาศนี้จะเรียกว่า “ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่สมาคมเก็บรวบรวม สมาคมจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วน บุคคลที่ระบุไว้ตามประกาศ ดังนี้

ในกรณีที่สมาคมได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน เช่น เพื่อการพิสูจน์ตัวตนในการก่อนิติ สัมพันธ์ทางกฎหมาย และ/หรือการทำธุรกรรมใด ๆ กับสมาคม เป็นต้น สมาคมอาจได้รับข้อมูลศาสนา ซึ่งปรากฏบนสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน ทั้งนี้สมาคมไม่มีวัตถุประสงค์และนโยบายในการเก็บรวบรวมข้อมูลศาสนาของท่าน และดำเนินการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวในรูปแบบอื่น ๆ

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล สมาคมดำเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งต่าง ๆ ดังนี้
     4.1 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏบนเอกสารประกอบการ จัดซื้อจัดจ้าง การดําเนินการทําสัญญาจ้าง ผ่านการติดต่อสื่อสารกับสมาคมผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น อีเมล โทรศัพท์ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับเมื่อท่านเข้าร่วมการประชุมหรือสัมมนา เป็นต้น
     4.2 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น เช่น นายจ้าง ผู้แทน ผู้รับมอบอํานาจ ผู้ประสานงาน เลขา ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือผู้ติดต่อของท่านที่เป็นบุคคลธรรมดา เอกสารของทางราชการ หรือแหล่งข้อมูล สาธารณะ เช่น เว็บไซต์ของบริษัทจดทะเบียน หรือเว็บไซต์หน่วยงานของรัฐ เป็นต้น

5. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล สมาคมดําเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์และฐานกฎหมายในการประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

ทั้งนี้ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับสมาคม สมาคมไม่อาจดําเนินการตามที่ท่านร้องขอหรือตามสัญญาได้ และท่านอาจไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญา และอาจได้รับความเสียหาย หรือเสียโอกาส ในบางกรณี การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ สมาคมหรือท่านมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม และอาจมีบทกําหนดโทษที่เกี่ยวข้อง

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อดําเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนําส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในสมาคมและบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ดังนี้
     6.1 ภายในสมาคม สมาคมอาจเปิดเผยหรือนําส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในสมาคมเฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จําเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น โดยบุคคลหรือทีมงานเหล่านี้ของสมาคม จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความจําเป็นและเหมาะสม
     6.2 ภายนอกสมาคม สมาคมอาจเปิดเผยหรือนําส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลและ/หรือ องค์กรภายนอก ดังนี้
         6.2.1 บริษัทสมาชิก
         6.2.2 บริษัทภายนอกที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย
         6.2.3 สื่อมวลชน
         6.2.4 บุคคลภายนอกที่ให้บริการแก่สมาคม เช่น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โรงพิมพ์ ผู้ให้บริการด้านขนส่งเอกสารและพัสดุ ผู้ให้บริการจัดทํา E-book ผู้ให้บริการด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการสถานที่จัดงาน
         6.2.5 บุคคลทั่วไป และผู้เยี่ยมชมสื่อสังคมออนไลน์ แอพพลิเคชั่น และ/หรือเว็บไซต์อื่น ๆ
         6.2.6 หน่วยงานของรัฐ บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่มีอํานาจตามกฎหมาย เช่น ตํารวจ กรมสรรพากร
         6.2.7 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่าน เช่น เลขานุการ ผู้ประสานงาน

7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ สมาคมจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล และใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทําให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครอง และท่านสามารถใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมาย รวมถึงสมาคมจะกําหนดให้ผู้ที่ ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จําเป็นเท่านั้น และดําเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอํานาจ โดยมิชอบ โดยในบางกรณี สมาคมอาจขอความยินยอมของท่านสําหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว

8. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

     สมาคมจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานเท่าที่จําเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ โดยระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วน บุคคลของท่านจะแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้สมาคมจะเ ทั้งนี้สมาคมจะเก็บรักษา ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เกิน 10 ปีนับแต่วันที่ยุติความสัมพันธ์ หรือการติดต่อครั้งสุดท้ายกับสมาคม เว้นแต่ กฎหมายกําหนดให้เก็บนานกว่าระยะเวลาดังกล่าว
     หลักเกณฑ์ที่ใช้กําหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่สมาคมยังมีความสัมพันธ์กับท่านในฐานะที่เป็นผู้ ขึ้นทะเบียนเข้าเป็นคู่ค้า ผู้ประสานงาน ผู้แทน กรรมการ ผู้รับมอบอํานาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของบุคคล ธรรมดาหรือนิติบุคคลผู้ขึ้นทะเบียนเข้าเป็นคู่ค้าหรือผู้เป็นคู่ค้าของสมาคมและอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จําเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อ เหตุอื่นตามนโยบายและข้อกําหนดภายในองค์กรของสมาคม
     เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้น สมาคมจะลบ ทําลาย หรือทําให้ ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

9. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล สมาคมจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยสมาคมมีการดําาเนินการดังต่อไปนี้
     9.1 การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและส่วนประกอบของระบบสารสนเทศที่สําคัญ (access control) ที่มีการพิสูจน์และยืนยันตัวตน (identity proofing and authentication) และการอนุญาตหรือ การกําหนดสิทธิในการเข้าถึงและใช้งาน (authorization) ที่เหมาะสม โดยคํานึงถึงหลักการให้สิทธิเท่าที่ จําเป็น (need-to-know basis) ตามหลักการให้สิทธิที่น้อยที่สุดเท่าที่จําเป็น (principle of least privilege)
     9.2 การบริหารจัดการการเข้าถึงของผู้ใช้งาน (user access management) ที่เหมาะสมซึ่งอาจรวมถึง การลงทะเบียนและการถอนสิทธิผู้ใช้งาน (user registration and de-registration) การจัดการสิทธิการ เข้าถึงของผู้ใช้งาน (user access provisioning) การบริหารจัดการสิทธิการเข้าถึงตามสิทธิ (management of privileged access rights) การบริหารจัดการข้อมูลความลับสําหรับการพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้งาน (management of secret authentication information of users) การทบทวนสิทธิการเข้าถึงของผู้ใช้งาน (review of user access rights) และการถอดถอนหรือปรับปรุงสิทธิการเข้าถึง (removal or adjustment of access rights)
     9.3 การกําหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน (user responsibilities) เพื่อป้องกันการเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข ลบ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอํานาจหรือโดยมิชอบ ซึ่งรวมถึงกรณีที่เป็น การกระทํานอกเหนือบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ตลอดจนการลักลอบทําสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอํานาจหรือโดยมิชอบ และการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
     9.4 การจัดให้มีวิธีการเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือลบ ข้อมูลส่วนบุคคล (audit trails) ที่เหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคล
     9.5 สมาคมกําหนดให้บุคลากรหรือหน่วยงานภายในสมาคมที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ต้องให้ความสําคัญและรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามนโยบายและแนวปฏิบัติ ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสมาคมอย่างเคร่งครัด

10. สิทธิของเจ้าของข้อมูล ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในการดําเนินการดังต่อไปนี้
     10.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม หากท่านได้ให้ความยินยอมให้สมาคมเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผล ม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
     10.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึง และขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่าน รวมถึงขอให้สมาคมเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของสมาคม
     10.3 สิทธิในการให้ส่งหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้ที่สมาคมได้จัดหาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ ทํางานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีกา สมาคมส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทําได้ด้วย วิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่สมาคมส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดําเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
     10.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ ในกรณีที่กฎหมายกําหนด
     10.5 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือ ทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้
     10.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่สมาคมอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคําร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่สม ที่สมาคมหมดความจําเป็นและต้องลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้สมาคมระงับการใช้แทน
     10.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอให้สมาคมแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
     10.8 สิทธิร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอํานาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บ รวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทําในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
     ท่านสามารถร้องขอใช้สิทธิตามกฎหมายได้ โดยกรอกรายเอียดใบแบบฟอร์มคําร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคล ได้ที่ช่องทางการติดต่อตามข้อ 12 การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวอาจถูกจํากัดภายใต้กฎหมายที่ เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจําเป็นที่สมาคมอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดําเนินการตามคําขอใช้สิทธิข้างต้น ของท่านได้ หากสมาคมปฏิเสธคําขอข้างต้น สมาคมจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย

11. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว สมาคมจะทําการพิจารณาทบทวนประกาศนี้เป็นประจําเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง หากมีการเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ สมาคมจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ประกาศความเป็นส่วนตัวที่สําคัญใดๆ พร้อมกับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทาง ที่เหมาะสม ทั้งนี้ สมาคมขอแนะนําให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

12. ช่องทางการติดต่อ หากท่านประสงค์จะติดต่อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสิทธิของ ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามประกาศฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อสมาคมและเจ้าหน้าที่คุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางช่องทางดังต่อไปนี้

สมาคมเซอร์เวย์ประเทศไทย
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 200/13 หมู่ที่ 5 ซอย หมู่บ้านเอกธานี ถนนเลี่ยงเมือง ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โทรศัพท์: +66 2480 9972
เว็บไซต์: thaisurveyorclub.org
อีเมล: